แต่งตัวยังไงให้ดูสูง

เสื้อผ้าเป็นอีกสิ่งที่หนึ่งที่สามารถ ปรับเปลี่ยน พรางรูปร่างให้ดู สูง ผอมและทำให้บุคลิกของเราให้ดูดีขึ้น มีความน่าเชื่อถือขึ้นได้แล้ว แต่งตัวอย่างไรให้ดูสูง ขึ้นละ? ถามถูกคนแล้ว! Miraclas มีคำตอบค่ะ 

แต่งตัวอย่างไรให้ดูสูง

เริ่มจากคุณผู้ชายก่อนเลย

1. ควรเลือกเสื้อผ้าที่ไม่ยาว และใหญ่จนเกินไปใส่เสื้อผ้าที่พอดีตัวดีที่สุด
2. สวมเสื้อที่ไม่คลุมสะโพกมากเกินไป
3. การสวมเสื้อคอวีจะทำให้ช่วงลำตัวดูยาวขึ้น
4. อย่าใส่เสื้อคอเต่า หรือคอกลมที่ติดลำคอมากเกินไป เพราะจะทำให้ดูตัวตันหรือเตี้ย
5. เนื้อผ้ามีส่วนสำคัญ เลือกเนื้อผ้าที่บาง จะทำให้ดูโปร่งขึ้น
6. เสื้อและกางเกงควรเป็นสีโทนเดียวกัน หรือโทนสีใกล้กัน มันจะช่วยพรางสายตาทำให้ดูสูงขึ้น
7. อย่าใส่เสื้อและกางเกงที่มีสีตัดกันอย่างชัดเจน เพราะมันจะเน้นรูปร่างและทำให้ดูเตี้ย
8. เลือกโทนสีที่ไม่ฉูดฉาด แจ่มเจ็บจนเกินไป เพราะโทนสีเหล่านี้ทำให้เห็นความเตี้ยอย่างชัดเจน
9. เป็นไปได้ เลือกเสื้อผ้าโทนสีมืดหน่อย
10. ใส่เสื้อผ้าลายแนวตั้งกันดีกว่า! ช่วยพรางสายตาให้ดูสูงขึ้นเยอะ อย่าใส่แนวขวางเด็ดขาดเพราะจุทำให้คุณเตี้ย
11. ถ้าคิดจะใส่ลายขวางทั้งเสื้อและกางเกง อย่าเด็ดขาด! มันไม่ได้ทำให้สูงนะแต่มันดูตลกสะมากกว่า
12. ไม่ควรใส่กางเกงเอวต่ำ เพราะมันจะทำให้ช่วงขาสั้น ดูเตี้ย ไม่โอเคสุดๆ
13. เรื่องการเลือกรองเท้าก็สำคัญ เป็นส่วนช่วยให้เราดูสูงขึ้นได้เลยนะ อย่าใส่รองเท้าเตะเด็ดขาด เพราะมันจะทำให้ณเตี้ยและไม่ดูดีเลย
14. หารองเท้าแบบมีส้นมาใส่ (ไม่ใช้ส้นสูงนะเธอ!) ไม่ว่างานไหนต้องรองเท้ามีส้นเท่านั้น
15. อาจจะหาแผ่นเสริมส้นรองเท้ามาใส่ แต่รองเท้าควรจะหุ้มข้อเพราะถ้าใช้กับรองเท้าทั่วไปจะทำให้เนื้อที่บริเวณส้นเหลือน้อย เวลาใส่ต้องค่อยระวังรองเท้าหลุดบ่อย
16. เวลานั่ง ยืน เดิน ต้องตัวตรง คอตรงตลอดเวลา เพราะมันคือพื้นฐานของผู้ที่มีบุคลิกภาพดี ถึงจะเผลอไปบ้างก็ทนหน่อย
17. ทรงผมใครว่าไม่สำคัญ ผมสั้นดีกว่าผมยาวแน่ๆ ผมสั้นทำให้คอดูยาวหลอกตาได้เยอะหรือไม่หนุ่มๆอาจจะใช้วิธีเซ็ทผมตั้งๆเสริมเข้าไว้ เพิ่มความสูงขึ้นมาได้อีกนิด
18. การสร้างบุคลิกที่ดี ความมั่นใจเป็นพื้นฐาน ถึงแม้ว่าจะไม่ได้สูงมากแต่ก็สามารถดึงดูดความสนใจด้วยบุคลิกภาพที่ดีได้ เรื่องสูงค่อยพัฒนากันไป

ถึงตาของสาวๆ กันบ้าง อะไรที่จะเป็นตัวช่วยให้สาวๆ ดูสูง และบุคลิกดีได้ ตามนี้เลย

1. อย่าใส่เสื้อลายขวางทั้งท่อนล่างและท่อนบนเพราะมันจะทำให้คุณดูเตี้ยได้อีก
2. เหมือนคุณผู้ชายเลยค่ะ! อยากใส่เสื้อลาย แนะนำให้ใส่เสื้อลายแนวตั้ง มันช่วยพรางให้เราดูสูงขึ้น
3. สำหรับคนผอม ตัวเล็ก ขอเถอะนะอย่าตามเทรนด์เสื้อผ้าลายๆ นักเลยเพราะยิ่งใส่เสื้อลายตั้ง มันยิ่งทำให้คุณดูตัวเล็กลง แถมยังเตี้ยลงจริงจัง
4. สีสันของเสื้อผ้า อย่าเน้นฉูดฉาดเลยเนอะ เพราะมันจะยิ่งเน้นให้เห็นรูปร่างที่ชัดเจนขึ้น เฮ้ออ…ไม่อยากจะคิดเลย
5. เสื้อลายดอกก็อีกอย่างนึง ยิ่งดอกใหญ่เท่าไร ยิ่งทำให้เตี้ยและดูตัวเล็กมากขึ้นเท่านั้น
6. การใส่เสื้อคอวีช่วยให้เราดูคอยาวขึ้น
7. เสื้อผ้าที่โทนสีเดียวกัน โดยเฉพาะสีขาวสามารถพรางสายตาให้ดูสูงขึ้นได้
8. ไม่แนะนำให้ใส่กางเกงขาบานนะ เพราะว่ามันจะทำให้ดูเตี้ยกว่าความเป็นจริง
9. กางเกงขาเดฟ หรือสกินนี่ทำให้ช่วงขาของคุณดูเรียวขึ้นได้
10. กางเกงขาสั้น (ที่ไม่สั้นจู๋) น่าจะเป็นอีกหนึ่งตัวช่วยทำให้ดูสูงได้ไม่ยากค่ะ เพราะมันพรางสายตาทำให้ขาดูเรียวสวยนั้นเอง
11. หลีกเลี่ยงกางเกงที่มีจั๊มตรงปลาย ใส่แล้วยิ่งทำให้ตัวเตี้ย กางเกงแบบนี้ออกแบบมาเพื่อคนสูงเท่านั้น
12. ไม่แนะนำให้ใส่กระโปรงทรงเอ และกระโปรงที่ยาวคลุมทั้งหมด
13. พวกกางเกง กระโปรงเอวสูง จะทำให้คุณดูสูงได้อีก!
14. ถ้าอยากใส่สูท แนะนำว่าให้ติดกระดุมเม็ดเดียวตรงกลาง เพื่อพรางสายตาให้ดูโปร่ง
15. อยากใส่เสื้อคลุม อย่าลืมปลดกระดุมออกทุกเม็ด ช่วยให้ดูสูงโปร่งขึ้นได้เยอะเลย
16. เครื่องประดับเลือกไปเลือกมาก็ทำให้ดูสูงได้นะ อย่างเข็มขัดมีลาย เลือกให้เล็กๆเข้าไว้
17. กำไล สร้อย แหวน ไม่แนะนำให้ใส่เยอะ
18. อย่าใส่กำไล สร้อย หรือแว่นชิ้นใหญ่ มันยิ่งทำให้ตัวดูเล็กลง
19. สร้อยคอเส้นยาวมาจนถึงช่วงลำตัว จะช่วยทำให้ลำตัวคุณดูยาวมากขึ้น
20. อย่าใส่สร้อยคอที่ติดคอ หรือพันรอบคอเลย เพราะจะทำให้รอบคอและลำตัวดูสั้น
21. ผมที่ยาวจนเกินไปอาจจะทำให้คุณดูตัวสั้นขึ้นมาถนัดตา
22. คำตอบสุดท้ายของคุณผู้หญิงถ้าอยากสูง “รองเท้าส้นสูง” เท่านั้น ช่วยได้มากเลยละ ส้นยิ่งเรียวเท่าไร ยิ่งไปพรางให้ขาของคุณดูเรียวขึ้นเท่านั้น
    
    ขอบคุณข้อมูล Miraclas

อยากสูง ต้องเข้าใจระบบร่างกาย

อยากสูง ต้องเข้าใจระบบร่างกาย 

ความสูงเป็นกลไกธรรมชาติตามพันธุกรรมที่เราได้มาจากพ่อแม่ ปู่ย่า ตายาย ก็จริง กลไกธรรมชาติเหล่านี้สามารถพัฒนาส่งเสริมได้ด้วยการดูแลสุขภาพ วิถีชีวิต และการกิน คนไม่น้อยยอมปล่อยให้ความสูง เป็นเรื่องของธรรมชาติ ทั้งๆที่เราสามารถกระตุ้น และส่งเสริมให้ร่างกายสูงขึ้นได้ บางคนพอใจกับความสูง 175 ซม. ทั้งๆที่เขาอาจสูงได้มากกว่านั้น ในขณะที่บางคนปล่อยให้เวลาผ่านไปเพราะคิดว่าความสูงเป็นเรื่องของพันธุกรรมอย่างเดียว จึงไม่ได้ทำอะไรเพื่อเสริมสร้างความสูง ความสูงของเขาจึงไปหยุดอยู่ที่ 160 ซม. เท่านั้น ทั้งๆ ที่หากได้รับการดูแลในเวลาที่เหมาะสม ปฏิบัติตัวอย่างเหมาะสม รับประทานสารอาหารที่ถูกต้องอาจทำให้เขาสูงขึ้นได้อีกนับ 10 ซม. ทีเดียว สารอาหารที่เหมาะสมทำให้เราสูงขึ้นได้อย่างไร

สารอาหารที่เหมาะสมทำให้เราสูงขึ้นได้อย่างไร

เป็นเรื่องปกติที่ทุกคน อยากสูง เพราะความสูงนำมาซึ่งสิ่งดีๆ ในชีวิตมากมาย แม้แต่คนที่สูงอยู่แล้วก็ยังอยาก เพิ่มความสูง ขึ้นอีก หากเราเข้าใจกลไกธรรมชาติของความสูง ว่าร่างกาย เพิ่มความสูง ขึ้นได้อย่างไร เราก็จะดูแลความสูงของเราได้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้

เมื่อคลอดออกมาเป็นมนุษย์ ร่างกายจะมีกลไกในการรักษาชีวิตซึ่งเป็นกลไกธรรมชาติที่เราเปลี่ยนแปลงไม่ได้ กลไกนี้ได้แก่ ระบบดำรงชีพ ระบบป้องกันอันตราย ระบบสืบพันธ์ุ เป็นต้น ระบบเหล่านี้จะทำงานโดยอัตโนมัติ อยู่นอกเหนือการควบคุมทั่วไปของเรา ร่างกายของเราจะมีช่วงเวลาพัฒนาเรื่องความสูง และหยุดสูงเมื่อร่างกายเห็นว่าเหมาะสม และได้เวลาที่จะเน้นสร้างเสริมในส่วนอื่นๆ เช่นเมื่ออายุเข้าสู่วัยเจริญพันธุ์ เด็กผู้หญิงเริ่มมีรอบเดือน ร่างกายจะเปลี่ยนไปเน้นเสริมสร้างระบบสืบพันธ์ุ เนื่องจากระบบสืบพันธุ์ของผู้หญิงมีอวัยวะที่เกี่ยวข้องจำนวนมาก มีความละเอียดอ่อนกว่าของผู้ชาย เราจึงพบได้ว่าเมื่อถึงวัยมีรอบเดือน เด็กผู้หญิงจะหยุดสูงในขณะที่เด็กผู้ชายยังคงสูงขึ้นได้อยู่ สารอาหารต่างๆ ที่เด็กหญิงได้รับจะถูกนำไปพัฒนาเสริมสร้างร่างกายในส่วนที่จำเป็นต่อระบบสืบพันธุ์

ระบบการทำงาน และการเสริมสร้างของร่างกายนั้นเป็นไปโดยธรรมชาติเพื่อการดำรงชีวิต ร่างกายไม่เข้าใจว่าความสูงดีอย่างไร ร่างกายจึงสูง และหยุดสูงตามกลไกธรรมชาติของพันธุกรรมนั้นๆ

อยาก เพิ่มความสูง ต้องสั่งร่างกายได้
คน อยากสูง มี 2 ประเภท

• คน อยากสูง ที่อยู่ในวัยกำลังโต – ส่วนมากคนอยาก เพิ่มความสูง มักเป็นพ่อแม่ ที่อยากให้ลูกตัวสูง ส่วนลูกเองก็ยังไม่ค่อยจะสนใจ อยากสูง สักเท่าไหร่ ยังไม่เห็นความสำคัญโดยเฉพาะเด็กเล็ก
• คน อยากสูง ที่อยู่ในวัยหยุดสูงไปแล้ว – ส่วนมากเจ้าตัวจะเป็นคน อยากสูง เพราะรู้แล้วว่าเราสูงไม่พอ
  คำถามที่ว่าหากผ่านพ้นวัยที่หยุดสูงไปแล้ว เราจะยังคงสูงได้อีกหรือไม่ เป็นข้อถกเถียงมาเป็นเวลานาน เนื่องจากตามทฤษฎีแล้ว เมื่อพ้นวัยที่ร่างกายจะสูงได้แล้ว กระดูกจะปิด และร่างกายจะหยุดสูง แต่ก็มีตัวอย่างไม่น้อยที่คนอายุเลยวัยที่จะสูงได้ ยังคงสูงได้อยู่ คำอธิบายอย่างเป็นกลางที่พอเข้าใจได้ทั้งสองฝ่ายก็คือ ร่างกายมนุษย์นั้นมีความแตกต่างกัน อะไรก็ดูเหมือนจะเป็นไปได้สำหรับคนจำนวนหนึ่ง ทุกอย่างมีข้อยกเว้นเสมอเพราะมนุษย์ไม่ใช่เครื่องจักรที่ถูกผลิตออกมาจากโรงงาน เราจึงเห็นอยู่ไม่น้อยว่า วัยรุ่นบางคนสูงเกือบ 180ซม. ในขณะที่พ่อ แม่ ปู่ย่า ตายาย ไม่สูง หรือกลับกันก็มี หรือเด็กบางคนโตเร็ว แต่หยุดโตเร็ว บางคนโตช้า พ่อแม่คิดว่าไม่โตแล้ว แต่กลับกลายเป็นผู้ใหญ่ที่สูงกว่าเพื่อนๆ เสียอีก ในเมื่อปัจจัยเหล่านี้ ยังคงเป็นปัจจัยที่ยากแก่การสรุป เรามาดูดีๆ ว่า ถ้าเรา อยากสูง (ไม่ว่าเราเป็นคน อยากสูง ประเภทไหน) เราควรทำอย่างไร
  สื่อสารกับร่างกายให้ถูกวิธี ทำให้ร่างกายเรารู้ว่าต้องทำอย่างไร
• นอนให้มากเข้าไว้ เวลาที่สำคัญมากต่อร่างกายคือเวลา 22:00 – 02:00 น. ของวันใหม่ ซึ่งเป็นช่วงที่ร่างกายจะหลั่งฮอร์โมนเสริมสร้างการเติบโต (Growth Hormone) ออกมามากที่สุด HGH หรือ Human Growth Hormone นี้ มีหน้าที่เสริมสร้างร่างกายในส่วนที่สึกหรอไปในระหว่างวัน และเสริมสร้างความสูง เมื่ออายุ 23 ปีขึ้นไป ร่างกายจะลดอัตราการหลั่ง Growth Hormone ลงอย่างมาก หากในช่วงเวลาดังกล่าว ร่างกายของเราอยู่ในภาวะหลับโกรธฮอร์โมนของเราก็จะหลั่งออกมาได้เต็มที่ แต่ถ้าเราอยู่ในภาวะตื่น ร่างกายก็จะหลั่งโกรธฮอร์โมนออกมาน้อยมาก หรือไม่หลั่งโกรธฮอร์โมนออกมา ดังนั้นหากเรานอนให้ถูกเวลาเราก็จะสามารถทำให้ร่างกายของเราทำตามในสิ่งที่เราอยากให้มันทำได้นั่นก็คือ ให้ร่างกาย หลั่งโกรธฮอร์โมนออกมามากที่สุด สำหรับผู้ที่จำเป็นต้องนอนดึกๆ ให้ตั้งนาฬิกาปลุกตื่นมาทำภาระกิจหลังจากเวลา 02:00 น. ก็ได้ เพราะเป็นช่วงที่เลยเวลาโกรธฮอร์โมนหลั่งไปแล้ว
• หาสารอาหารที่จำเป็นต่อการสร้างเสริมการเติบโตมารับประทาน ร่างกายเปรียบเสมือนตึกที่ต้องการปูน หิน ทราย กรวด และเหล็กในการสร้างเสริมความสูง เราไม่สามารถสร้างตึกจากเหล็กเพียงอย่างเดียว ปูนเพียงอย่างเดียว หรือทรายเพียงอย่างเดียวได้ เรา อยากสูง ให้ลองนึกดูว่าในแต่ละวันเรารับประทานอาหารอะไรบ้างที่ร่างกายต้องการในการเสริมสร้างความสูง มันไม่สำคัญเลยว่าเราชอบทานอะไร ที่สำคํญคือ สิ่งที่เรารับประทานเข้าไปมันจำเป็นต่อการเติบโตของร่างกายหรือไม่
• บอกให้ร่างกายรู้ว่าให้นำสารอาหารไปใช้ที่ไหน – หากเราไม่ทำอะไรเมื่อร่างกายได้รับสารอาหาร เพิ่มความสูง เข้าไปร่างกายก็จะนำไปซ่อมแซมส่วนที่ร่างกายเห็นว่าสำคัญกว่าก่อนซึ่งอาจไม่ใช่สิ่งที่เราต้องการ การออกกำลังกายโดยการยืดตัว (Stretching) เป็นการที่เราบอกร่างกายของเราว่าให้นำสารอาหารไปใช้ตรงไหนนั่นเอง ดังนั้นการออกกำลังกายโดยการยืดตัวนั้น เราต้องทำให้ตึงรู้สึกเจ็บ กลไกรักษาตัวเองของร่างกายจะเห็นว่าต้องรีบเข้าไปเสริมสร้างบริเวณที่เกี่ยวข้องกับอวัยวะนั้นๆ
• ให้เวลาร่างกายทำงาน อย่าวัดความสูงแบบวัดเช้าวัดเย็น เพราะนอกจากมันจะไม่ส่งผลอะไรต่อความสูง มันจะทำให้เราเครียด และเมื่อเราเครียดจะส่งผลต่อกลไกการเติบโต ไม่มีกติกาตายตัวว่าเมื่อปฏิบัติเช่นนี้แล้วจะสูงขึ้นเท่าไร และใช้เวลาเท่าไหร่ ร่างกายแต่ละคนมีความแตกต่างกัน บางคนใช้เวลาสองถึงสามเดือนร่างกายสูงขึ้น 3 – 5 ซม. บางคนอาจใช้เวลามากกว่านั้น ขึ้นอยู่กับปัจจัยมากมาย แต่โปรดเข้าใจว่า
  – เมื่อเราทราบว่าฮอร์โมนจะหลั่งตอนไหน เราก็นอนตอนนั้นเพื่อให้ฮอร์โมนทำงานได้ดีที่สุด
  – เมื่อเราทราบว่าเวลาร่างกายได้รับสารอาหารเข้าไปมันจะสร้างอะไรบางอย่าง เราก็บอกมันให้สร้างตรงที่เราต้องการสารอาหารที่จำเป็นต่อการเจริญเติบโต
• โปรตีน – ร่างกายต้องการโปรตีนที่มาจากสัตว์ และพืชในสัดส่วนที่เหมาะสมในการสร้างเนื้อเยื่อ กล้ามเนื้อ และอวัยวะต่างๆ
• คอลลาเจน – ร่างกายใช้คอลลาเจนในการสร้างกระดูก กระดูกอ่อน เส้นเลือด และกล้ามเนื้อ
• แคลเซียม – ร่างกายต้องการแคลเซียมในการสร้างเสริมให้กระดูก และกระดูกอ่อนแข็งแรง
• แอลอาร์จีนีน – แอลอาร์จีนีนช่วยกระตุ้นให้ร่างกายสร้างโกรธฮอร์โมน และไนตริกออกไซด์เพื่อทำความสะอาดหลอดเลือด
• วิตามินต่างๆ เช่น วิตามิน ซี วิตามิน ดี – ร่างกายต้องการวิตามินเพื่อกระตุ้นให้เกิดการทำงานของกลไกสร้างการเติบโต และเป็นตัวสำคัญที่ทำให้ร่างกายของเรานั้น ทำงานได้เป็นปกติ
• คาทีเลจ – กระดูกอ่อนจากสัตว์ทะเล โดยเฉพาะจากปลาฉลามจะช่วยให้ร่างกายเสริมสร้างกระดูกอ่อนซึ่งมีความจำเป็นอย่างยิ่งสำหรับการเติบโต
• โอเมก้า 3 – อีพีเอ และดีเอชเอ นับเป็นกรดไขมันจำเป็นที่ร่างกายต้องการเป็นอย่างยิ่งในการเสริมสร้างการทำงานระดับเซลล์ต่อเมื่อร่างกายได้รับสารอาหารเหล่านี้ในสัดส่วนที่เหมาะสมอย่างครบถ้วน ร่างกายจึงจะเริ่มกลไกในการสร้างเสริม คนส่วนใหญ่ที่กินเท่าไหร่ก็ไม่โต กลับได้แต่น้ำหนักที่เพิ่มขึ้น เนื่องจากขาดความสมดุลของสารอาหารที่ร่างกายต้องการ ยกตัวอย่างให้เห็นง่ายๆว่า ถึงแม้หน้างานก่อสร้างจะมีคนงานอยู่จำนวนมาก มีปูน ทราย อิฐ แต่ขาดเหล็กเส้นไป คนงานเหล่านั้นก็ไม่สามารถทำอะไรได้ ต้องนั่งรอว่าเมื่อไรเหล็กเส้นจะมาจึงเริ่มทำงานกันได้ ต่อมามีปูน ทราย มาเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ คนงานเหล่านั้นก็ยังไม่สามารถทำอะไรได้ แต่เจ้าของตึกอาจคาดหวังว่าสั่งของเข้าไปยังหน้างานจำนวนมากตึกของเราน่าจะสร้างไปได้หลายชั้นแล้ว เมื่อมาตรวจดูที่หน้างานกลับพบว่ายังไม่มีความคืบหน้า มีแต่คนงานนั่งรอกันอยู่เป็นจำนวนมาก ร่างกายของเราก็เช่นเดียวกันสิ่งที่ควรหลีกเลี่ยง
  กลไกธรรมชาติในการเติบโตจะเกิดขึ้นมากน้อยขึ้นอยู่กับปัจจัยภายนอกที่ทำให้ร่างกายต้องป้องกันตัวด้วย เช่น
• เมื่อดื่มน้ำอัดลม – ร่างกายจะต้องหลั่งอินซูลินจำนวนมากกว่าปกติ เพื่อขนน้ำตาลไปใช้ ร่างกายชอบน้ำตาลมากเนื่องจากสมองของเราใช้น้ำตาลเป็นพลังงานเมื่อเห็นน้ำตาล สมองจะสั่งระบบร่างกายให้จัดการนำน้ำตาลไปใช้ หรือจัดเก็บก่อน ทำให้สารอาหารดีๆ ที่เรารับประทานเข้าไปถูกน้ำไปใช้ในทางที่เราไม่ต้องการ
• เมื่อนอนน้อย – ร่างกายเกิดความสึกหรอมาก สารอาหารที่ดีๆ ที่รับประทานเข้าไปจะถูกนำไปซ่อมเซมส่วนที่สึกหรอก่อน
• เมื่อสูบบุหรี่ – สารอนุมูลอิสระเข้าสู่ร่างกายผ่านทางปอดเป็นจำนวนมาก ปอดซึ่งมีหน้าที่เป็นด่านแรกในการนำเอาออกซิเจน เข้าสู่ร่างกายโดยผ่านทางเม็ดเลือด ระบบนำพาออกซิเจนทำงานหนัก ในขณะที่ได้รับออกซิเจนน้อย ทำให้ร่างกายต้องขอกำลังเสริมจำนวนมากเพื่อให้การส่งออกซิเจนไปสู่ร่างกายเพื่อให้เป็นไปได้อย่างปกติ สารอาหารดีๆ ที่รับประทานเข้าไปก็จะถูกนำไปใช้ในกระบวนการป้องกันตัวเองก่อน
• เมื่อดื่มแอลกอฮอล์ – แอลกอฮอล์ ในสายตาของร่างกายคือ สารตะกั่วพิษที่ร่างกายไม่เข้าใจว่าทำไม ถึงผ่านเข้ามาจำนวนมาก กลไกป้องกันตนเองจึงต้องทำงานหนักเพื่อกลั่นกรองสารพิษเหล่านี้ พลังงานจำนวนมหาศาลจึงถูกส่งไปช่วยกำจัดสารพิษให้ออกไปจากร่างกาย
  เมื่อเราเครียด หรือรับประทานอาหารที่มีสารอนุมูลอิสระมาก ร่างกายจะต้องต่อสู้เอาตัวรอดจากสารอนุมูลอิสระที่มีมากเกินปกติ กลไกที่ร่างกายใช้ต่อสู้กับสารอนุมูลอิสระเป็นกลไกที่ซับซ้อนต้องการความช่วยเหลือจากระบบอื่นๆ ของร่างกายจำนวนมาก ดังนั้นร่างกายจึงจำเป็นที่จะต้องใช้สารอาหารจำนวนมากเพื่อสนับสนุนให้กลไกต้านอนุมูลอิสระทำงานได้ดีเสียก่อน
  ความจริงหากสารอาหารดีๆ ที่เรารับประทานเข้าไปไม่ต้องสูญเสียไปกับเรื่องข้างต้น เราจะมีวัตถุดิบที่นำไปใช้ในการสร้างความสูงของเราได้อย่างเต็มที่ทีเดีียว
  สำหรับคน อยากสูง หรือต้องการ เพิ่มความสูง ให้กับลูกหลาน อย่ารอจนรู้แน่ว่าหยุดสูงแล้วจริงๆ แล้วค่อยหาทาง เพิ่มความสูง ไม่มีอะไรเสียหายที่คุณจะรีบทำตามคำแนะนำข้างต้นนี้ ขอให้ความสูง และความสุขจงเป็นของคุณ

ขอบคุณแหล่งที่มา www.miraclas.com

แต่งตัวอย่างไรให้ดูสูง

เสื้อผ้าเป็นอีกสิ่งที่หนึ่งที่สามารถ ปรับเปลี่ยน พรางรูปร่างให้ดู สูง ผอมและทำให้บุคลิกของเราให้ดูดีขึ้น มีความน่าเชื่อถือขึ้นได้แล้ว แต่งตัวอย่างไรให้ดูสูงขึ้นละ? ถามถูกคนแล้ว! Miraclas มีคำตอบค่ะ 

แต่งตัวอย่างไรให้ดูสูง

เริ่มจากคุณผู้ชายก่อนเลย

1. ควรเลือกเสื้อผ้าที่ไม่ยาว และใหญ่จนเกินไปใส่เสื้อผ้าที่พอดีตัวดีที่สุด
2. สวมเสื้อที่ไม่คลุมสะโพกมากเกินไป
3. การสวมเสื้อคอวีจะทำให้ช่วงลำตัวดูยาวขึ้น
4. อย่าใส่เสื้อคอเต่า หรือคอกลมที่ติดลำคอมากเกินไป เพราะจะทำให้ดูตัวตันหรือเตี้ย
5. เนื้อผ้ามีส่วนสำคัญ เลือกเนื้อผ้าที่บาง จะทำให้ดูโปร่งขึ้น
6. เสื้อและกางเกงควรเป็นสีโทนเดียวกัน หรือโทนสีใกล้กัน มันจะช่วยพรางสายตาทำให้ดูสูงขึ้น
7. อย่าใส่เสื้อและกางเกงที่มีสีตัดกันอย่างชัดเจน เพราะมันจะเน้นรูปร่างและทำให้ดูเตี้ย
8. เลือกโทนสีที่ไม่ฉูดฉาด แจ่มเจ็บจนเกินไป เพราะโทนสีเหล่านี้ทำให้เห็นความเตี้ยอย่างชัดเจน
9. เป็นไปได้ เลือกเสื้อผ้าโทนสีมืดหน่อย
10. ใส่เสื้อผ้าลายแนวตั้งกันดีกว่า! ช่วยพรางสายตาให้ดูสูงขึ้นเยอะ อย่าใส่แนวขวางเด็ดขาดเพราะจุทำให้คุณเตี้ย
11. ถ้าคิดจะใส่ลายขวางทั้งเสื้อและกางเกง อย่าเด็ดขาด! มันไม่ได้ทำให้สูงนะแต่มันดูตลกสะมากกว่า
12. ไม่ควรใส่กางเกงเอวต่ำ เพราะมันจะทำให้ช่วงขาสั้น ดูเตี้ย ไม่โอเคสุดๆ
13. เรื่องการเลือกรองเท้าก็สำคัญ เป็นส่วนช่วยให้เราดูสูงขึ้นได้เลยนะ อย่าใส่รองเท้าเตะเด็ดขาด เพราะมันจะทำให้ณเตี้ยและไม่ดูดีเลย
14. หารองเท้าแบบมีส้นมาใส่ (ไม่ใช้ส้นสูงนะเธอ!) ไม่ว่างานไหนต้องรองเท้ามีส้นเท่านั้น
15. อาจจะหาแผ่นเสริมส้นรองเท้ามาใส่ แต่รองเท้าควรจะหุ้มข้อเพราะถ้าใช้กับรองเท้าทั่วไปจะทำให้เนื้อที่บริเวณส้นเหลือน้อย เวลาใส่ต้องค่อยระวังรองเท้าหลุดบ่อย
16. เวลานั่ง ยืน เดิน ต้องตัวตรง คอตรงตลอดเวลา เพราะมันคือพื้นฐานของผู้ที่มีบุคลิกภาพดี ถึงจะเผลอไปบ้างก็ทนหน่อย
17. ทรงผมใครว่าไม่สำคัญ ผมสั้นดีกว่าผมยาวแน่ๆ ผมสั้นทำให้คอดูยาวหลอกตาได้เยอะหรือไม่หนุ่มๆอาจจะใช้วิธีเซ็ทผมตั้งๆเสริมเข้าไว้ เพิ่มความสูงขึ้นมาได้อีกนิด
18. การสร้างบุคลิกที่ดี ความมั่นใจเป็นพื้นฐาน ถึงแม้ว่าจะไม่ได้สูงมากแต่ก็สามารถดึงดูดความสนใจด้วยบุคลิกภาพที่ดีได้ เรื่องสูงค่อยพัฒนากันไป

ถึงตาของสาวๆ กันบ้าง อะไรที่จะเป็นตัวช่วยให้สาวๆ ดูสูง และบุคลิกดีได้ ตามนี้เลย

1. อย่าใส่เสื้อลายขวางทั้งท่อนล่างและท่อนบนเพราะมันจะทำให้คุณดูเตี้ยได้อีก
2. เหมือนคุณผู้ชายเลยค่ะ! อยากใส่เสื้อลาย แนะนำให้ใส่เสื้อลายแนวตั้ง มันช่วยพรางให้เราดูสูงขึ้น
3. สำหรับคนผอม ตัวเล็ก ขอเถอะนะอย่าตามเทรนด์เสื้อผ้าลายๆ นักเลยเพราะยิ่งใส่เสื้อลายตั้ง มันยิ่งทำให้คุณดูตัวเล็กลง แถมยังเตี้ยลงจริงจัง
4. สีสันของเสื้อผ้า อย่าเน้นฉูดฉาดเลยเนอะ เพราะมันจะยิ่งเน้นให้เห็นรูปร่างที่ชัดเจนขึ้น เฮ้ออ…ไม่อยากจะคิดเลย
5. เสื้อลายดอกก็อีกอย่างนึง ยิ่งดอกใหญ่เท่าไร ยิ่งทำให้เตี้ยและดูตัวเล็กมากขึ้นเท่านั้น
6. การใส่เสื้อคอวีช่วยให้เราดูคอยาวขึ้น
7. เสื้อผ้าที่โทนสีเดียวกัน โดยเฉพาะสีขาวสามารถพรางสายตาให้ดูสูงขึ้นได้
8. ไม่แนะนำให้ใส่กางเกงขาบานนะ เพราะว่ามันจะทำให้ดูเตี้ยกว่าความเป็นจริง
9. กางเกงขาเดฟ หรือสกินนี่ทำให้ช่วงขาของคุณดูเรียวขึ้นได้
10. กางเกงขาสั้น (ที่ไม่สั้นจู๋) น่าจะเป็นอีกหนึ่งตัวช่วยทำให้ดูสูงได้ไม่ยากค่ะ เพราะมันพรางสายตาทำให้ขาดูเรียวสวยนั้นเอง
11. หลีกเลี่ยงกางเกงที่มีจั๊มตรงปลาย ใส่แล้วยิ่งทำให้ตัวเตี้ย กางเกงแบบนี้ออกแบบมาเพื่อคนสูงเท่านั้น
12. ไม่แนะนำให้ใส่กระโปรงทรงเอ และกระโปรงที่ยาวคลุมทั้งหมด
13. พวกกางเกง กระโปรงเอวสูง จะทำให้คุณดูสูงได้อีก!
14. ถ้าอยากใส่สูท แนะนำว่าให้ติดกระดุมเม็ดเดียวตรงกลาง เพื่อพรางสายตาให้ดูโปร่ง
15. อยากใส่เสื้อคลุม อย่าลืมปลดกระดุมออกทุกเม็ด ช่วยให้ดูสูงโปร่งขึ้นได้เยอะเลย
16. เครื่องประดับเลือกไปเลือกมาก็ทำให้ดูสูงได้นะ อย่างเข็มขัดมีลาย เลือกให้เล็กๆเข้าไว้
17. กำไล สร้อย แหวน ไม่แนะนำให้ใส่เยอะ
18. อย่าใส่กำไล สร้อย หรือแว่นชิ้นใหญ่ มันยิ่งทำให้ตัวดูเล็กลง
19. สร้อยคอเส้นยาวมาจนถึงช่วงลำตัว จะช่วยทำให้ลำตัวคุณดูยาวมากขึ้น
20. อย่าใส่สร้อยคอที่ติดคอ หรือพันรอบคอเลย เพราะจะทำให้รอบคอและลำตัวดูสั้น
21. ผมที่ยาวจนเกินไปอาจจะทำให้คุณดูตัวสั้นขึ้นมาถนัดตา
22. คำตอบสุดท้ายของคุณผู้หญิงถ้าอยากสูง “รองเท้าส้นสูง” เท่านั้น ช่วยได้มากเลยละ ส้นยิ่งเรียวเท่าไร ยิ่งไปพรางให้ขาของคุณดูเรียวขึ้นเท่านั้น

เกณฑ์มาตรฐานส่วนสูงของเด็กไทย

ความสูงถือเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยให้เราได้เปรียบกว่าคนอื่นๆ ทั้งในด้านการประกอบอาชีพ การใช้ชีวิตประจำวัน รวมไปจนถึงด้านบุคลิกภาพ แต่หลายๆ คนกว่าจะมองเห็นความสำคัญของความสูง ก็ทำเอาชวดโอกาสดีๆ ไปหลายอย่าง จะให้มาเพิ่มความสูง ก็ยากเสียแล้วเพราะผ่านช่วงเวลาที่สามารถเพิ่มความสูงได้รวดเร็วที่สุดไปแล้ว
ดังนั้น พ่อแม่ ผู้ปกครอง ถ้าไม่อยากให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้กับบุตรหลานของคุณ ควรเร่งเพิ่มความสูง

ขอบคุณข้อมูลดีๆ จาก Miraclas.com

ต้องสูงเท่าไร? ถึงจะได้เป็นแอร์

  อาชีพในฝันของสาวๆ หลายคนคงจะไม่พ้นอาชีพ “แอร์โฮสเตส” เพราะเป็นอาชีพที่ได้แต่งตัวสวยๆ ได้ท่องเที่ยวไปในประเทศต่างๆ แทบจะรอบโลก และที่สำคัญรายได้จากการทำอาชีพนี้ค่อนข้างดีเลยทีเดียว แต่การที่จะเข้าสู่อาชีพสุดเก๋อย่าง “แอร์โฮสเตส” ได้นั้นต้องมี
คุณสมบัติทางกายภาพและความสามารถ ซึ่งคุณสมบัติทางกายภาพคงจะหลีกเลี่ยงในเรื่องของ “ความสูง” ไปไม่ได้อย่างแน่นอน สูงไม่ถึงโอกาสที่จะได้มาเป็นนางฟ้าเดินเฉิดฉายอยู่บนเครื่องบินก็คงจะริบหรี่ นอกจากนี้การมีรูปร่างที่สมส่วน มีบุคลิกภาพที่ดี สะอาดสะอ้าน ก็เป็นอีกหนึ่งปัจจัยในอาชีพนี้ และที่สำคัญความสามารถที่สาวๆ แอร์โฮสเตสจะต้องมีก็คือ ความสามารถทางด้านภาษา ซึ่งในส่วนนี้สามารถเรียนรู้เพิ่มเติมได้ตลอดเวลา ต่างจากคุณสมบัติทางกายภาพโดยเฉพาะความสูง ไม่สูงก็ต้องพยายามกันหน่อย เรามาดูกันดีกว่าว่านางฟ้าแต่ละสายการบินต้องใช้เกณฑ์ส่วนสูงเท่าไรกันบ้าง

  เกณฑ์ความสูงแต่ละสายการบิน สาวๆ ต้องสูงกันเท่าไรนะ?

1. THAI AIRWAYS – ส่วนสูง 160 ซม.
2. CATHAY PACIFIC – ต้องสามารถเอื้อมแตะถึงในระดับนิ้วโป้งให้ได้ 208 ซม.
3. KOREA AIR –  162 ซม.
4. EVA AIR – 160 ซม.
5. THAI AIRASIA – 162 ซม.
6. CHINA AIRLINE – 160 ซม.
7. EMIRATE – ดูจากการเอื้อมแตะถึงในระดับนิ้วโป้งให้ได้ถึง 212 ซม.
8. SINGAPORE AIRLINE –  158 ซม.
9. BANGKOK AIRWAYS –  162 ซม.

ขอบคุณบทความดีๆ จาก Miraclas.com

เคล็บลับ! ท่าออกกำลังกายเพื่อเพิ่มความสูง

อยากสูงหรอ ? วันนี้ Miraclas นำเคล็ดลับท่าออกกำลังกายเพื่อเพิ่มความสูงมากฝากกัน ท่าเหล่านี้เป็นท่ายืดตัวที่สำคัญ หนุ่มๆ สาวๆ คนไหนอยากสูงคงต้องจัดอย่างน้อยวันละ 20 – 40 นาทีแล้วละ ฝืนใจทำติดต่อกันให้ได้สัก 7 วัน การออกกำลังกายเหล่านี้ก็จะกลายเป็นความเคยชินโดย

หลักการเพิ่มความสูง

การเสริมสร้างกระดูกอ่อน (Cartilaginous) ให้มีการเจริญเติบโตได้อย่างสมบูรณ์ด้วย “โปรตีนเข้มข้น” และ “คอลลาเจน”
ความสูงของคนเรา ส่วนหนึ่งมาจากความยาวของกระดูกสันหลัง ซึ่งกระดูกสันหลังของคนเรานั้น จะมีทั้งหมด 24 ชิ้น แบ่งออกเป็นส่วนคอ 7 ชิ้น ส่วนหลังบริเวณอก 12 ชิ้น และส่วนกระดูกด้านข้าง 5 ชิ้น โดยกระดูกสันหลังจะแยกออกเป็น 2 ประเภท คือ ส่วนที่เป็นกระดูกแข็ง และส่วนที่เป็นกระดูกอ่อนที่อยู่ระหว่างกระดูกแข็ง ในส่วนนี้เรียกว่า “Disk” เป็นส่วนที่สามารถเจริญเติบโตได้เรื่อยๆ มีความหนาและบางแตกต่างกันไป เมื่อร่างกายได้รับสารอาหารจำพวกโปรตีนมากเพียงพอ ร่างกายก็จะทำการสังเคราะห์ให้กลายเป็น “คอลลาเจน” ใช้ในกระบวนการสร้างความหนาให้กับกระดูกอ่อนต่อไป ทำให้กระดูกสันหลังยืดขึ้นและทำให้เราสูงขึ้น       เพิ่มศักยภาพการสร้าง “โกรทฮอร์โมน (Growth Hormone)” ให้กับร่างกายด้วย กรดอะมิโน แอลอาร์จินีน (L-arginine)           การเพิ่มความสูงของคนเรา ส่วนหนึ่งมาจากการสร้าง “โกรทฮอร์โมน” ที่สมบูรณ์ โกรทฮอร์โมนจะหลั่งออกมามากที่สุดในช่วงที่เรานอนหลับสนิท ดังนั้นการที่เรานอนหลับอย่างไม่มีคุณภาพ เช่น นอนหลับไม่สนิท หลับยาก รวมไปถึงการนอนดึก จะทำให้ร่างกายไม่สามารถสร้างโกรทฮอร์โมนได้อย่างเต็มที่ ดังนั้นแล้ว การเสริมกรดอะมิโน แอลอาร์จินีน ซึ่งเป็นสารตั้งต้นให้กับร่างกายในการสร้างโกรทฮอร์โมน เมื่อร่างกายมีการสร้างโกรทฮอร์โมนได้อย่างมีประสิทธิภาพ ก็จะส่งผลให้อัตราการเจริญเติบโตที่ดีขึ้นตามมา         กระตุ้นการเจริญเติบโตของกระดูกอ่อนส่วนปลายด้วย “Zinc”           กระดูกอ่อนส่วนปลายนับว่าเป็นส่วนสำคัญในการเพิ่มความหนาให้กับกระดูกอ่อน  “Zinc” จึงถือเป็นวิตามินที่จำเป็นต่อการเจริญเติบโตของกระดูก โดยเฉพาะกระดูกอ่อน ซึ่งในเด็กหากขาด Zinc ก็จะทำให้ร่างกายไม่เจริญเติบโต อยู่ในภาวะโตช้า เพราะนอกจากเรื่องกระดูกแล้ว Zinc ยังมีส่วนช่วยในการดูดซึมสารอาหารให้กับร่างกายอีกด้วย           ยืดกล้ามเนื้อด้วยการออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ             การออกกำลังกายด้วยการยืดเส้น เป็นกระบวนการยืดกล้ามเนื้อให้กับร่างกาย เพื่อรองรับการขยายตัวของกระดูกที่กำลังเจริญเติบโตขึ้น ต้องมีการเคลื่อนไหวทั่วทั้งร่างกาย อาทิ การกระโดดเอื้อมแตะสิ่งของที่สูงกว่า ว่ายน้ำ เล่นโยคะ ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมออย่างน้อย 30 – 45 นาทีให้เหงื่อออก ไม่แนะนำให้กระโดดเชือก หรือวิ่งหนักๆ เนื่องจากเป็นการเสริมสร้างกล้ามเนื้อให้แข็งแรง มากกว่าที่จะยืดให้สูงขึ้น         เสริมสร้างกระดูกอ่อนให้แข็งแรงด้วย “แคลเซียม” “แมกนีเซียม” และ “วิตามินดี 3”           แคลเซียม แมกนีเซียม เป็นแร่ธาตุที่สำคัญและขาดไม่ได้ในการเสริมสร้างกระดูกให้แข็งแรง การที่ร่างกายจะได้รับแร่ธาตุทั้งสองชนิดนี้ จำเป็นต้องอาศัยวิตามินดีในการดูดซึม และสังเคราะห์เข้าสู่ร่างกาย อีกทั้งแคลเซียมยังมีส่วนช่วยในการทำงานของระบบประสาท เนื้อเยื่อ และกล้ามเนื้อในส่วนต่างๆ อีกด้วย      


References: Adachi JD, Bensen WG, Bianchi F, et al. Vitamin D and calcium in the prevention of corticosteroid induced osteoporosis: a 3 year followup. J Rheumatol 1996;23:995-1000. Adachi JD, Ioannidis G. Calcium and vitamin D therapy in corticosteroid-induced bone loss: what is the evidence? Calcif Tissue Int 1999;65:332-6. Ahee P, Crowe AV. The management of hyperkalaemia in the emergency department. J Accid Emerg Med 2000;17:188-91. Akerstrom G, Hellman P, Hessman O, et al. Parathyroid glands in calcium regulation and human disease. Ann N Y Acad Sci 2005;1040:53-8. Allender PS, Cutler JA, Follmann D, et al. Dietary calcium and blood pressure: a meta-analysis of randomized clinical trials. Ann Intern Med 1996;124:825-31. Alvir JM, Thys-Jacobs S. Premenstrual and menstrual symptom clusters and response to calcium treatment. Psychopharmacol Bull 1991;27:145-8. Anderson JJ. Calcium requirements during adolescence to maximize bone health. J Am Coll Nutr 2001;20:186S-91S. Ariyan CE, Sosa JA. Assessment and management of patients with abnormal calcium. Crit Care Med 2004;32:S146-54. Baeksgaard L, Andersen KP, Hyldstrup L. Calcium and vitamin D supplementation increases spinal BMD in healthy, postmenopausal women. Osteoporos Int 1998;8:255-60. Bania TC, Blaufeux B, Brewer GJ, Dick RD, Johnson VD, et al. Treatment of Wilson’s disease with zinc: XV long-term follow-up studies. J Lab Clin Med 1998;132:264-78. Brewer GJ, Yuzbasiyan-Gurkan V, Johnson V, et al. Treatment of Wilson’s disease with zinc: XI. Interaction with other anticopper agents. J Am Coll Nutr 1993;12:26-30. Brody I. Topical treatment of recurrent herpes simplex and post-herpetic erythema multiforme with low concentrations of zinc sulphate solution. Br J Dermatol 1981;104:191-4. Brook AC, Johnston DG, Ward MK, et al. Absence of a therapeutic effect of zinc in the sexual dysfunction of haemodialysed patients Lancet 1980;2:618-20. Brooks WA, Yunus M, Santosham M, et al. Zinc for severe pneumonia in very young children: double-blind placebo-controlled trial. Lancet 2004;363:1683-8. Broun ER, Greist A, Tricot G, Hoffman R. Excessive zinc ingestion. A reversible cause of sideroblastic anemia and bone marrow depression. JAMA 1990;264:1441-3. Burd GD. Morphological study of the effects of intranasal zinc sulfate irrigation on the mouse olfactory epithelium and olfactory bulb. Microsc Res Tech 1993;24:195-213. Burnham TH, ed. Drug Facts and Comparisons, Updated Monthly. Facts and Comparisons, St. Louis, MO. Burrows NP, Turnbull AJ, Punchard NA, et al. A trial of oral zinc supplementation in psoriasis. Cutis 1994;54:117-8.

ขอบคุณที่มา www.miraclas.com